POV คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นกระแสนิยมบน Tiktok

สำหรับคน Gen อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Gen Z เวลาที่เข้าไปเล่น TikTok คุณคงจะเห็นครีเอเตอร์คอนเทนต์ POV อยู่บ่อย ๆ เช่น “POV เมื่อเรากำลังจะเลิกงาน แต่โดนหัวหน้าสั่งงาน” หรือ “POV กำลังจะออกไปข้างนอก แต่ฝนตก” คอนเทนต์รูปแบบนี้สร้างความบันเทิงได้ดีมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ผู้ชมเคยมีประสบการณ์ตรงมาก่อนแล้ว ทำให้ใคร ๆ ก็ชื่นชอบการชม POV และเกิดเป็นกระแสนิยมอย่างแพร่หลาย ใครที่กำลังสงสัยว่า “POV คืออะไร ศัพท์วัยรุ่นที่คนชอบใช้กัน” หรือครีเอเตอร์ที่อยากจะรู้ว่า POV ใช้ยังไง เพื่อที่จะเอาไปทำคอนเทนต์เรียกเอนเกจเมนต์ วันนี้ ANGA จะมาคลายข้อสงสัยให้รู้กันผ่านบทความนี้เลย

POV คืออะไร ศัพท์วัยรุ่นสุดฮิต

POV คือการจำลองสถานการณ์ผ่านมุมมองเฉพาะที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้น ๆ ซึ่ง POV ย่อมาจาก Point of View หรือจุดยืนมุมมอง คำว่า “POV” กลายเป็นศัพท์ฮิตในหมู่วัยรุ่นโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และ YouTube ในรูปแบบของวิดีโอสั้น ๆ ที่สื่อสารอารมณ์และเรื่องราวได้อย่างชัดเจน การถ่ายวิดีโอแบบ POV มีหลายมุมมอง แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือมุมกล้องแบบบุคคลที่หนึ่ง เพราะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังมองผ่านสายตาของตัวละครหรือครีเอเตอร์ เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมและดื่มด่ำไปกับเนื้อหามากกว่าการรับชมแบบธรรมดา นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ยังสามารถสร้างสรรค์เรื่องราวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฉากตลก สถานการณ์สมมติในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่จำลองเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ก็ตาม

ทำความรู้จักประเภทของ POV

1. มุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First-Person POV) เจอได้บ่อยที่สุดบน TikTok เพราะทำง่าย แค่ถือกล้องแล้วถ่ายสิ่งที่ตาเรามอง คนดูจะรู้สึกเหมือนเป็นคนถ่ายเอง เวลาเดินเที่ยว ทำกับข้าว หรือไปงานปาร์ตี้ มุมนี้ทำให้คนดูอินสุด ๆ
2. มุมมองบุคคลที่สอง (Second-Person POV) มุมนี้คนทำต้องพูดกับคนดูโดยตรง เสมือนคนดูเป็นคนในเหตุการณ์นั้น เช่น “คุณกำลังเดินเข้าไปในร้านแล้วพนักงานมองคุณแปลก ๆ ” พร้อมกับแสดงปฏิกิริยาให้เห็น ทำให้คนดูรู้สึกมีส่วนร่วมกับเรื่องราวมาก
3. มุมมองบุคคลที่สาม (Third-Person POV) มุมนี้จะเห็นภาพรวมทั้งหมดจากมุมบุคคลที่สาม เหมือนเรานั่งดูละคร มองเห็นทุกตัวละคร เหมาะกับการเล่าเรื่องที่มีหลายตัวละครหรือต้องการให้เห็นภาพกว้าง ๆ ของสถานการณ์
4. มุมมองแบบสวมบทบาท (Role-Play POV) แบบนี้ครีเอเตอร์จะแสดงเป็นตัวละครต่าง ๆ ในสถานการณ์สมมติ เช่น แสดงเป็นแม่ค้า แฟน เพื่อน หรือตัวละครในซีรีส์ดัง คนดูจะได้เห็นการโต้ตอบระหว่างตัวละครที่ครีเอเตอร์สวมบทบาท

ทำไม POV ถึงกลายเป็นกระแสบน TikTok

POV กลายเป็นกระแสบน TikTok เพราะช่วยสร้างความรู้สึกร่วมได้เป็นอย่างดี เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ คุณก็อยากดูจนจบ กดไลก์ และแชร์ต่อ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยดันคอนเทนต์ให้ดังในอัลกอริทึมของ TikTok ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกคนเบื่อไม่ได้ออกไปไหน วิดีโอ POV เหมือนเป็นทางออกที่ช่วยให้คนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกอื่นชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นการจำลองว่าคุณเป็นตัวละครในซีรีส์ดัง กำลังเจอสถานการณ์ตลกร้าย หรือแม้แต่เป็นคนดังที่ถูกแฟนคลับรุมล้อมก็ตาม

ข้อดีของการทำคอนเทนต์ POV คืออะไร

คอนเทนต์ POV กำลังมาแรงบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าคุณจะเป็น Content Creator หรือ TikToker หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจที่กำลังปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักบน Social Media การทำคอนเทนต์แบบ POV ช่วยกระตุ้นให้เกิดเอนเกจเมนต์บนช่องและเพิ่มโอกาสให้การเข้าถึงผู้คนจำนวนมากได้เป็นอย่างดี

สร้างความใกล้ชิดกับคนดู

POV ช่วยให้คนดูรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและอยากติดตามเนื้อหาต่อไปเรื่อย ๆ ยิ่งถ้าเป็นสถานการณ์ที่คล้ายกับชีวิตจริง คนดูจะยิ่งรู้สึกว่า “เฮ้ย นี่มันเหมือนชีวิตฉันเลยนี่นา” และกลายเป็นแฟนคลับที่พร้อมจะดูทุกวิดีโอที่คุณทำ คนที่มีประสบการณ์คล้าย ๆ กันก็มักจะมารวมตัวกันในคอมเมนต์ เกิดเป็นชุมชนเล็ก ๆ ใต้คอนเทนต์ของคุณ

มีโอกาสดังไวแบบข้ามคืน

POV หมายถึงมุมมองเฉพาะ หากคุณทำคอนเทนต์ POV ผ่านมุมมองของคุณ ผู้ชมก็จะได้เห็นมุมมองเดียวกัน สามารถกระตุ้นอารมณ์คนดูได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ขัน ความเศร้า หรือความประทับใจ เมื่อคนดูรู้สึกอินกับเนื้อหา พวกเขามักจะแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ ได้ดูด้วย ระบบของ TikTok ก็จะดันคอนเทนต์ที่คนดูจนจบและมีส่วนร่วมสูงไปให้คนอื่น ๆ เห็นมากขึ้น ทำให้ยอดวิวพุ่งแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา

แสดงความสร้างสรรค์ได้เต็มที่

การทำ POV เปิดโอกาสให้คุณได้ปล่อยของ ทั้งการเล่าเรื่องและการแสดง ลองคิดดูว่าการเล่าเรื่องทั้งหมดภายในเวลาแค่ 15-60 วินาทีมันยากแค่ไหน แต่ถ้าทำได้ดี คนจะจำคุณได้และแยกคุณออกจากครีเอเตอร์คนอื่น ๆ ที่มีเป็นล้านบนแพลตฟอร์ม คุณอาจจะลองทำหลาย ๆ สไตล์เพื่อค้นหาเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น POV ขำ ๆ POV สยองขวัญ หรือ POV ให้แง่คิด

ทำการตลาดได้แบบแนบเนียน

แบรนด์ต่าง ๆ ใช้ POV เป็นเครื่องมือการตลาดได้เนียนมาก แทนที่จะยัดเยียดโฆษณาตรง ๆ ก็แค่จำลองสถานการณ์การใช้สินค้าให้ดูสมจริง เช่น “POV : เมื่อคุณใช้ครีมแบรนด์ X ครบ 1 เดือน” แล้วก็โชว์ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง คนดูจะรู้สึกว่ากำลังดูประสบการณ์จริงไม่ใช่โฆษณา และสามารถจินตนาการได้ว่าถ้าใช้สินค้านี้ตัวเองก็จะได้ผลลัพธ์แบบในวิดีโอ ทำให้อยากซื้อมาลองใช้มากขึ้น

POV ใช้ยังไง สอนวิธีทำคอนเทนต์ POV

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มทำคอนเทนต์ POV ยังไงดี ลองมาดูแนวทางการทำคอนเทนต์ POV บน TikTok ที่เราเอามาฝากกันได้เลย

1. ดูกลุ่มคนดูของคุณก่อน

ก่อนจะเริ่มทำ POV ลองคิดถึงคนที่จะมาดูคลิปคุณว่าเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ชอบอะไร เพราะคนดูต่างกัน ก็ชอบ POV คนละแบบ วัยรุ่นอาจชอบเรื่องในโรงเรียน คนทำงานอาจชอบเรื่องออฟฟิศ การเลือกเรื่องให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมายจะทำให้คลิปดังและเป็นกระแสได้ง่ายกว่า

2. จับกระแสให้ทัน

ดูว่าตอนนี้มีกระแสอะไรกำลังมาแรงบน TikTok แล้วเอามาทำเป็น POV ของคุณเอง อย่างถ้ามีเพลงไหนกำลังฮิต หรือมีเทรนด์ไหนที่คนกำลังพูดถึง ลองนำมาปรับให้เป็น POV ในแบบของตัวเอง จะช่วยให้มีโอกาสโผล่ในฟีดคนอื่นมากขึ้น

3. สร้างสถานการณ์ให้น่าสนใจ

คิดสถานการณ์ที่จะทำให้คนอยากดูต่อ ไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา แต่เป็นเรื่องที่คนอยากรู้ว่าจะจบยังไง เช่น “POV: เมื่อแฟนเก่าทักมาหาหลังเลิกกันไป 2 ปี” ซึ่งจะทำให้คนอยากรู้ว่าจะตอบกลับไปยังไง จบอย่างไร

4. จับจังหวะการตัดต่อให้ดี

การตัดต่อที่ดีจะช่วยให้ POV น่าดูมากขึ้น เลือกตัดฉากตามจังหวะเพลง หรือในจุดที่น่าสนใจ ไม่ปล่อยให้นิ่งนานเกินไป เพราะคนดูอาจเบื่อและเลื่อนผ่านไปได้ โดยการตัดต่อที่กระชับจะช่วยให้คนดูอยู่กับคลิปของคุณจนจบ

5. เล่นกับมุมกล้องแปลก ๆ 

ลองถ่ายมุมที่ไม่เหมือนใคร เช่น วาง TikTok ไว้บนชั้นวางของแล้วทำท่าทางเหมือนกำลังแอบดูเหตุการณ์ หรือถ่ายจากมุมต่ำเพื่อให้ดูน่ากลัว การเล่นกับมุมกล้องจะทำให้ POV ของคุณดูมีเอกลักษณ์และน่าจดจำกว่าเดิม

6. เพิ่มเอฟเฟกต์เสียงให้สมจริง 

เสียงมีผลมากกับความรู้สึกของคนดู POV ลองอัดเสียงแวดล้อมจริงๆ  เช่น เสียงร้านกาแฟ เสียงตลาด หรือถ้าทำได้ลองใช้ไมค์ติดเสื้อเพื่อให้เสียงชัดขึ้น บางครั้งการใช้เสียงประกอบที่ไม่ใช่เพลง จะทำให้คลิปดูแตกต่างและน่าสนใจกว่า

7. ใช้อุปกรณ์จริงประกอบฉาก

การมีอุปกรณ์ประกอบฉากจะทำให้ POV ดูสมจริงยิ่งขึ้น เช่น ถ้าทำ POV เป็นพนักงานร้านกาแฟ ก็หาแก้วกาแฟมาใช้จริง ๆ หรือใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับบทบาท จะช่วยให้คนดูเชื่อและอินไปกับเรื่องราวมากขึ้น

บทสรุป

คอนเทนต์ POV คือกลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบการมอบความบันเทิงให้กับผู้ชม ในปัจจุบันนี้มีการสร้างคอนเทนต์ POV จำลองสถานการณ์มากมาย โดยในบางครั้ง POV นั้นอาจจะเอามาจากเรื่องจริงก็เป็นได้ สำหรับนักการตลาดหรือแบรนด์อย่างเรา ก็สามารถใช้ POV มาทำการตลาด เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการให้เป็นที่รู้จักได้เช่นกัน อย่างเช่น ANGA เป็นบริษัทรับทำ SEO ที่มีช่อง TikTok เพื่อแชร์ความรู้และไลฟ์สไตล์ของการเป็นเอเจนซี่ เราอาจจะทำเป็นคอนเทนต์เชิงขำขันอย่าง “POV เมื่อลูกค้าอยากให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google ภายใน 1 สัปดาห์” แล้วตัวละครอาจจะเหงื่อตกก็ได้ เพราะการทำ SEO ต้องใช้ระยะเวลานานหลักเดือน เป็นต้น ทุกธุรกิจสามารถหาแนวทางการทำ Content Marketing เป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ โดยสามารถเริ่มจาก POV ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการก่อนได้เลย