1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. AI คืออะไร เจาะลึกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่นักการตลาดต้องรู้
AI คือ
เผยแพร่เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2024

AI คืออะไร เจาะลึกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่นักการตลาดต้องรู้

Table Of Contents

เมื่อก่อนเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักหรือมีบทบาทมากนัก ทำให้เป็นเรื่องไกลตัวและไม่ได้มีบทบาทสำคัญมากนัก แต่ในปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI คือเครื่องมือที่ใครหลาย ๆ คนขาดไปไม่ได้ โดยเฉพาะกับนักการตลาดออนไลน์ นักเขียน และนักเรียนนักศึกษา ทั้งในแง่ของการใช้ส่วนตัว ใช้เพื่อการศึกษา ใช้ทำงาน ไปจนถึงใช้ในการทำธุรกิจเลย แล้วเจ้าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ คืออะไร? ปัญญาประดิษฐ์ มีอะไรบ้าง? ทำไมถึงสำคัญจนใคร ๆ ก็ต้องเข้าไปใช้งานกันทุกวัน ตามมาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย แต่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือ ANGA จะมาแนะนำกลยุทธ์ในการปั้นเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google Search ควบคู่ไปกับ AI Platform ด้วยเช่นกัน ใครทำ SEO หรือเป็นสายการตลาดอยู่แล้ว ห้ามพลาด!

AI คืออะไร

AI (Artificial Intelligence) คือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ในด้านการคิด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหา โดย AI จะอาศัยระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน ทำให้มีความสามารถครอบคลุมหลายด้านและถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น Google Maps (บริการแผนที่จาก Google) ที่เราใช้งานเป็นประจำ หรือ Siri ผู้ช่วยอัจฉริยะที่รองรับการสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงสำหรับอุปกรณ์ iOS เป็นต้น

ถึงแม้จะมีความสามารถมากมาย ทั้งในด้านของการหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เรียนรู้ ตัดสินใจ ประมวลผล ตีความ ฯลฯ เหมือนมนุษย์ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ AI ไม่สามารถทำได้เหมือนมนุษย์ได้ อย่างการตัดสินใจอะไรบ้างอย่างที่ต้องอาศัยอารมณ์หรือจริยธรรม การใช้ประสาทสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพราะ AI เก็บข้อมูลมาจากเนื้อหาที่ถูกอัปโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลที่เป็นความจริงผสมปนเปไปกับข้อมูลเท็จที่ AI ไม่สามารถแยกแยะได้ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะใช้ AI ทำงานให้ล่ะ คุณต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเผยแพร่ จึงจะเป็นการดีที่สุด

AI ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง

AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการทำงานของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้จะมีประโยชน์กับเรามาก อาทิ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ ประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ฯลฯ แต่ก็มีข้อเสียและความท้าทายเช่นกัน ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว ประเด็นด้านจริยธรรมในการตัดสินใจของ AI และแนวโน้มในการเข้ามาแทนที่มนุษย์ในบางสาขาอาชีพ

ข้อดีของ AI

  • เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องการความละเอียดและซ้ำซ้อน
  • ประมวลผลและผลิตผลงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับของมนุษย์
  • AI สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เหนื่อยล้าหรือต้องการพักผ่อน
  • ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • มีการพัฒนาเพื่อทำความเข้าใจคำสั่งของผู้ใช้งานและภาษากับเจตนาของมนุษย์อยู่เสมอ

ข้อเสียของ AI

  • มีต้นทุนสูงในการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบ AI (สำหรับผู้พัฒนา)
  • อาจเกิดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล
  • อาจทำให้ทักษะบางอย่างของมนุษย์มีประสิทธิภาพน้อยลง จากการพึ่งพา AI มากเกินไป
  • อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของพนักงานในบางสาขาอาชีพ

AI มีกี่ประเภท พร้อมยกตัวอย่าง

AI มีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันไป ในแต่ละอุตสาหกรรมและการใช้งาน การแบ่งประเภทของ AI สามารถทำได้หลายวิธี โดยจะขึ้นอยู่กับมุมมองและเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา สำหรับบทความนี้จะแบ่ง AI ออกเป็น 6 ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

  1. Natural Language Processing (NLP) : เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการประมวลผลและเข้าใจภาษาของมนุษย์ อาทิ การแปลภาษา การตอบคำถาม หรือการวิเคราะห์เจตนาและความรู้สึกในข้อความ อย่าง Google Translate, Gemini, Claude AI, ChatGPT ฯลฯ
  2. General AI : ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปที่มีความสามารถในการเรียนรู้และเลียนแบบสิ่งที่มนุษย์ทำ อย่างการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ และการเข้าใจในอารมณ์ของผู้อื่น (ณ ตอนนี้ยังไม่มี AI ประเภทนี้เกิดขึ้นจริง กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการพัฒนาต่อไป)
  3. Machine Learning : เป็น AI ที่มีความสามารถในการเรียนรู้จากข้อมูลต่าง ๆ พร้อมกับตัดสินใจทำนายผลลัพธ์ในอนาคตด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องถูกเขียนโปรแกรมโดยตรง ตัวอย่างเช่นระบบแนะนำภาพยนตร์หรือสื่อของ Netflix ให้แก่ผู้ใช้งาน จากการนำประวัติการรับชมมาวิเคราะห์ความสนใจ เป็นต้น
  4. Narrow AI : เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง แบบเฉพาะเจาะจง เช่น Siri ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบคำถามและทำตามคำสั่งของผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple
  5. Computer Vision : เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการทำความเข้าใจและตีความข้อมูลจากภาพหรือวิดีโอ
  6. Deep Learning : คล้ายกับ Machine Learning แต่จะมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ในระดับที่ลึกกว่า ซับซ้อนกว่า เพราะมีการใช้โครงข่ายประสาทเทียมที่มีหลายชั้นในการเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมาก ทำให้มีความแม่นยำมากกว่า เช่น AlphaGo ของ Google DeepMind ที่ใช้ Deep Learning ในการเอาชนะแชมป์โลกเกมโกะ

แนะนำกลยุทธ์ปั้นเว็บไซต์ให้ติดอันดับด้วย ASEO

ในยุคที่เทคโนโลยีและ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ การทำ SEO แบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ASEO (Adaptive Search Engine Optimization) จึงเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนทั้งบน Search Engine และ AI-powered platforms

ASEO คือแนวคิดการทำ SEO ที่มุ่งเน้นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมและพฤติกรรมผู้ใช้งานในโลกดิจิทัล โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ Discovery (ทำให้ Googlebot และ AI Engine ค้นพบและเข้าใจเนื้อหาเว็บไซต์ได้ง่าย), Engagement (สร้างการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน) และ Results (มุ่งสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือในด้านนั้น ๆ)

7 องค์ประกอบสำคัญของ ASEO

  1. Technical Issues (ปรับปรุงโครงสร้างและการทำงานของเว็บไซต์)
  2. SXO หรือ Search Experience Optimization (ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานควบคู่กับ SEO)
  3. External Signal (สร้างความน่าเชื่อถือจากปัจจัยภายนอกเว็บไซต์)
  4. Link Building (สร้าง Backlink คุณภาพสูงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ)
  5. SILO-based Structure (จัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน โดยการใช้ Internal Link เชื่อมโยงเนื้อหาประเภทเดียวกัน)
  6. High-quality Content (สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ตรงตามหลัก Google E-E-A-T)
  7. Keyword Research & Intent (ค้นหาและเข้าใจเจตนาของคีย์เวิร์ดที่ User ใช้ค้นหาจริง)

บทสรุป

จะบอกว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI คือสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของเราก็ว่าได้ ด้วยความสามารถในการเรียนรู้และตัดสินใจ ทำให้ AI ปฏิวัติวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะกับนักการตลาดทั้งหลาย ถึงแม้ Artificial Intelligence จะพบกับความท้าทายอย่างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งานและความบกพร่องด้านจริยธรรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI มีประโยชน์ต่อเราอย่างมาก สุดท้ายนี้ ถ้าคุณไม่อยากโดน AI แย่งงานไป ต้องเรียนรู้วิธีใช้ AI เข้ามาช่วยทำงานอย่างชาญฉลาด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
58

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
71

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
72
th