1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” เทรนด์จับจ่ายใหม่ที่น่าจับตามอง
Cover - ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง
เผยแพร่เมื่อ: ตุลาคม 4, 2024

“ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” เทรนด์จับจ่ายใหม่ที่น่าจับตามอง

Table Of Contents

การซื้อของชิ้นใหญ่ราคาสูงจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่มีรายได้น้อยหรือไร้บัตรเครดิตอีกต้องไป เพราะในช่วงไม่กี่ปีให้หลังนี้ มีบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่แสนจะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ แถมยังง่ายและสะดวกกว่าการสมัครใช้งานบัตรเครดิตเป็นไหน ๆ นั่นก็คือบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังหรือ Buy Now Pay Later (BNPL) นั่นเอง  เทรนด์บริการทางการเงินรูปแบบนี้กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เพราะความง่ายในการจับจ่ายใช้สอยอย่างอิสระนี่แหละ ที่จะมาทำให้วินัยทางการเงินของคุณมีความเสี่ยงที่จะพังไม่เป็นท่า หรือไม่ก็อาจทำให้ธุรกิจของคุณมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ได้

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังคืออะไร? ใครคือกลุ่มผู้ใช้หลักของบริการ Buy Now Pay Later, ทำไมการซื้อก่อนจ่ายทีหลังจึงเป็นที่นิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว, ข้อดีข้อเสียของบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง สำหรับลูกค้าและเจ้าของธุรกิจคืออะไร, ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง VS บัตรเครดิต ต่างกันอย่างไร? และรวมไปถึงคำแนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังสนใจเปิดใช้บริการ Buy Now Pay Later บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ด้วย หากคุณพร้อมแล้วสามารถไปติดตามอ่านเรื่องนี้กับ ANGA ได้เลย

Buy Now Pay Later หรือ ซื้อก่อนจ่ายทีหลังคืออะไร?

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) คือบริการทางการเงินทางเลือกใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อให้ผู้ซื้อได้ซื้อสินค้าที่ต้องการและสามารถแบ่งชำระเงินเป็นงวด ๆ ในภายหลังได้ โดยที่ไม่ต้องชำระเงินเป็นก้อนในครั้งเดียว บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังสามารถพบได้บนแพลตฟอร์ม E-commerce ยอดนิยมอย่าง Shopee, Lazada และผู้ให้บริการทางการเงินอย่าง TrueMoney Wallet รวมถึงธนาคารต่าง ๆ ด้วย ซึ่งดอกเบี้ยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 0% ไปจนถึง 7% ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละแพลตฟอร์ม

Adobe analytics ได้มีการระบุว่าสัดส่วนของการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังในปี 2022 เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปี 2021 โดยรายได้เพิ่มขึ้นถึง 27% เลยทีเดียว สืบเนื่องมาจนถึงปี 2023 ปริมาณคำสั่งซื้อจากสินเชื่อ BNPL ก็ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Precedence research ได้ประมาณการสินเชื่อ BNPL ของปี 2023 ในตลาดโลกว่ามีการเติบโตอยู่ที่ 24% และในระยะกลางก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอัตรา CAGR = 27% จากปี 2023-2028

การเติบโตของสินเชื่อ BNPL ในตลาดโลก

สินค้าประเภทใดถูกสั่งซื้อผ่านสินเชื่อ BNPL มากที่สุด

ผลสำรวจของการแบบสอบถามกับผู้ที่ใช้บริการสินค้า Buy Now Pay Later พบว่าคนส่วนใหญ่ตัดสินใจใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังกับสินค้าที่มีมูลค่าสูง ๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน และสินค้าแฟชั่นตามเทรนด์เป็นหลัก แต่ก็มีคนบางกลุ่มใช้บริการสินเชื่อ BNPL ในการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าไม่สูงนักเช่นกัน

สินค้ายอดนิยมในการซื้อแบบ BNPL

สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 หรืออยู่ที่ 47% ตามมาด้วยสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่น 43% เฟอร์นิเจอร์และสินค้าสำหรับบ้าน 31% และสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม, สินค้าจำเป็นในครัวเรือน, สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป, ความบันเทิง, อุปกรณ์ฟิตเนส และอื่น ๆ ตามลำดับ

ใครคือกลุ่มผู้ใช้หลักของบริการ Buy Now Pay Later

  • กลุ่ม Gen Z หรือผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 1997 – 2009 เพราะเป็นกลุ่มที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน ชื่นชอบอะไรตามเทรนด์ มองหาความสะดวกสบายให้แก่ชีวิต ยังไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน และเครดิตทางการเงิน (Credit score) ก็ยังไม่ได้น่าเชื่อถือจนถึงระดับที่จะสามารถสมัครบัตรเครดิตได้
  • กลุ่มคนที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรือมีรายได้น้อย เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้มีเงินก้อนในการชำระสินค้าในครั้งเดียว แต่ก็สามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการ โดยการทยอยแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ได้ ทำให้ไม้มีภาระที่น่าหนักใจจนเกินไป
  • กลุ่มคนที่ไม่ต้องการจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว อย่างบางคนมีเงินในบัญชีเพียงพอสำหรับการซื้อสินค้าที่ต้องการ แต่ไม่ได้อยากจ่ายก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ก็สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ตามความพึงพอใจได้

ความแตกต่างของบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังกับบัตรเครดิต

ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง VS บัตรเครดิต

ผู้ที่ใช้บริการสินเชื่อ

  • ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง : ผู้ที่มีรายได้น้อย รายได้มาก และรายได้ไม่แน่นอน
  • บัตรเครดิต : ผู้ที่มีรายได้ 1,5000 บาทขึ้นไป จากการทำงานประจำ

รายละเอียดการสมัครใช้งาน

  • ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง : ใช้บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และบัญชีธนาคาร ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโร และไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม
  • บัตรเครดิต : ใช้บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน และ Statement ย้อนหลัง มีการตรวจสอบเครดิตบูโร

ค่าธรรมเนียม

  • ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง : ส่วนมากไม่มีค่าธรรมเนียม
  • บัตรเครดิต : มีค่าธรรมเนียมรายปี

ระยะเวลาการอนุมัติ

  • ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง : 1-3 วันทำการ
  • บัตรเครดิต : 7-15 วันทำการ

วงเงินที่ได้รับ

  • ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง : ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการซื้อสินค้า  หรือการพิจารณาของผู้ให้บริการ
  • บัตรเครดิต : ขึ้นอยู่กับรายได้และเครดิตบูโร

ข้อดีของบริการ Buy Now Pay Later (ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง)

ข้อดีของ Buy Now Pay Later

ข้อดีของบริการ Buy Now Pay Later ในมุมมองของผู้ซื้อ

  • สมัครง่าย รู้ผลไว ไม่ต้องยื่นเอกสารหรือไปทำเรื่องกับธนาคารให้ยุ่งยาก ไม่ต้องมีการค้ำประกัน สามารถกรอกข้อมูลทางออนไลน์และรอผลการสมัครได้เลย
  • ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและทำให้สามารถจัดการการเงินได้ดีมากขึ้น
  • สะดวกสบาย สามารถซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมีเงินสดติดตัว
  • ไม่มีดอกเบี้ย ซื้อเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น (แต่บางแฟลตฟอร์มและบางร้านค้าก็จะมีการเก็บดอกเบี้ยร่วมด้วย ต้องอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนทุกครั้ง)

ข้อดีของบริการ Buy Now Pay Later ในมุมมองของผู้ขาย

  • กระตุ้นยอดขาย เพราะผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้นเมื่อทางร้านเข้าร่วมโปรแกรม BNPL
  • เพิ่มมูลค่ายอดขายต่อคำสั่งซื้อ เพราะลูกค้าสามารถแบ่งชำระเป็นงวด ๆ ได้ จึงมีความรู้สึกว่าสามารถซื้อสินค้าหลายรายการรวมกันในครั้งเดียวได้แบบสบาย ๆ 
  • สร้าง Customer loyalty ช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ เพราะความยืดหยุ่นในการชำระค่าสินค้าจากบริการสินเชื่อ BNPL ทำให้ผู้ซื้อกลับมาซื้อสินค้าที่ร้านเดิมซ้ำมากกว่าไปซื้อสินค้าร้านใหม่ ๆ 
  • ขยายฐานลูกค้า เพราะบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกำหนดขั้นต่ำในการสั่งซื้อ หลักสิบบาทก็สามารถใช้บริการนี้ได้ ซึ่งจะเป็นช่องทางในการทำให้ผู้ซื้อที่มีรายได้น้อยและผู้ซื้อทั่ว ๆ ไป มีโอกาสในการเข้าถึงบริการนี้และสินค้าของคุณมากขึ้น

ข้อเสียของบริการ Buy Now Pay Later (ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง)

ข้อเสียของ Buy Now Pay Later

ข้อเสียของบริการ Buy Now Pay Later ในมุมมองของผู้ซื้อ

  • ต้องชำระหนี้ตรงเวลา ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียเครดิตทางการเงินได้ ซึ่งในอนาคตอาจจะใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ยากลำบากขึ้น เพราะถูกจำกัดวงเงิน เรียกคืนวงเงิน หรือถูกแบน
  • ต้องยอมรับอัตราดอกเบี้ยที่แพลตฟอร์มกำหนด อัตราดอกเบี้ยของบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังจะเริ่มต้นตั้งแต่ 0-7% ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละสินค้า แต่ละร้านค้า และแต่ละแพลตฟอร์ม สินค้าบางรายการอาจจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยให้กับแพลตฟอร์ม
  • ซื้อของที่ไม่จำเป็นง่ายขึ้น เพราะความสะดวกสบายและยังไม่ต้องจ่ายเงินในตอนนี้ ทำให้ผู้ซื้อบางคนสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่จำเป็นและยังทำให้เกิดเป็นนิสัยใช้จ่ายเกินตัวอีกด้วย
  • เสี่ยงต่อการเสียวินัยทางการเงิน อาจทำให้หนี้สินพอกพูน จนไม่สามารถหาเงินมาชำระตามกำหนดการได้

ข้อเสียของบริการ Buy Now Pay Later ในมุมมองของผู้ขาย

  • เสียค่าธรรมเนียมการขายทั่วไปให้กับแพลตฟอร์ม 3%-7%
  • เสียค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมที่ทำผ่านบริการสินเชื่อ BNPL จากยอดชำระให้แก่แพลตฟอร์ม 3-5%
  • ต้องประเมินสภาพคล่องของธุรกิจให้ดี เพราะทางแพลตฟอร์มผู้ให้บริการสินเชื่อ BNPL จะมีการกำหนดรอบการจ่ายเงินให้กับทางร้านค้า เช่น ร้านค้าจะได้รับเงินก็ต่อเมื่อลูกค้ากดยืนยันการรับสินค้า หรือร้านค้าจะได้รับเงินภายใน 2-3 วันทำการหลังคำสั่งซื้อสำเร็จ เป็นต้น
  • เสี่ยงต่อการสูญเสียรายได้ จากการผิดชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งนอกจากทางผู้ขายจะไม่ได้รับเงินค่าสินค้าแล้ว ยังมีโอกาสที่จะโดนทางแพลตฟอร์มเก็บเงินเพิ่มทดแทนรายได้ที่สูญเสียไปจากการผิดนัดชำระอีกด้วย

เจ้าของธุรกิจควรรู้! ก่อนเปิดใช้บริการ BNPL ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

ก่อนที่คุณจะกระโดดลงไปเข้าร่วมโปรแกรมซื้อก่อนจ่ายทีหลังบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ สิ่งที่คุณต้องทำมีดังนี้

  1. ประเมินความเสี่ยง จากพฤติกรรมกำลังการซื้อสินค้าของลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า เพื่อประเมินว่าลูกค้ามีแนวโน้มในการเบี้ยวหนี้ไหม ถ้าคุณขายสินค้าผ่านบริการสินเชื่อ BNPL ให้แก่ลูกค้า 100 คน มีลูกค้าเบี้ยวการชำระหนี้ 10 คน สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร รายที่หายไปเท่าไหร่ คุ้มค่าไหมที่จะเสี่ยง
  2. เลือกแพลตฟอร์ม (ผู้ให้บริการสินเชื่อซื้อก่อนจ่ายทีหลัง) ที่เหมาะสมกับธุรกิจและประเภทของสินค้า ซึ่งคุณจะต้องการรายละเอียดการให้บริการของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดีและนำมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มจะมีการคิดค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขบางประการที่แตกต่างกัน
  3. ทำการตลาดออนไลน์ ยิงโฆษณา หรือโพสต์โปรโมตว่าทางร้านเข้าร่วมโปรแกรม Buy Now Pay Later เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้งานเยอะ ๆ 
  4. วางแผนการจัดการข้อมูลให้ดี หรือใช้เครื่องมือ CRM ในการบริหารจัดการข้อมูลของลูกค้า เพราะลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าแบบ BNPL บนแพลตฟอร์ม A อาจจะกลับมาซื้อซ้ำบนแพลตฟอร์ม B ได้ หากคุณมีการติดตั้งระบบจัดการข้อมูลและมีข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย คุณจะสามารถรู้ได้ว่าลูกค้ามีประวัติในการเบี้ยวหนี้หรือไม่ และมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ซึ่งจะช่วยประเมินความเสี่ยงให้แก่ธุรกิจได้ดีทีเดียว

บทสรุป

บริการสินเชื่อแบบ Buy Now Pay Later (BNPL) หรือซื้อก่อนจ่ายทีหลัง คือบริการทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องชำระเงินค่าสินค้าเต็มจำนวนในครั้งเดียว แต่เป็นการแบ่งชำระเป็นงวด ๆ ไป นอกจากจะทำให้ผู้ซื้อจัดการการเงินได้ดีพร้อมกับได้สินค้าที่ต้องการอยู่ในมือแล้ว ยังช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะผู้ซื้อหรือผู้ขาย ก่อนที่จะใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลังนี้ ควรอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขให้ถี่ถ้วนก่อน และมีสติทุกครั้งก่อนใช้บริการนี้ ไม่อย่างนั้นสุขภาพทางการเงินคุณอาจจะพัง เพราะช้อปง่าย จ่ายสบายไปโดยไม่รู้ตัวได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
53

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
53

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
53
th